1. ออกกำลังกายผิดวิธี
     การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอเป็นที่ยอดฮิตกันในหมู่สาวหุ่นสวย อย่างการว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน หรือการเคลื่อนไหวร่างกายเรียกเหงื่อทั่วไป อาจดีกับหัวใจเป็นอย่างมาก และยังทำให้ร่างกายแข็งแรงอีกด้วย แต่มันกลับไม่ได้เน้นส่วนที่เป็นหน้าท้อง เชิงกราน หรือแผ่นหลัง คาร์ดิโอช่วยเบิร์นไขมันได้แค่บางส่วนเท่านั้น  ซึ่งหากคุณต้องการลดหน้าท้องให้สำเร็จ ควรจะต้องออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอควบคู่ไปกับการเล่นเวท หรือเน้นออกกำลังกายเฉพาะส่วนจะดีกว่า แถมยังช่วยให้คุณฟิตเฟิร์มส่วนเกินให้กลับมาเชฟบ๊ะได้ง่ายกว่า
2. ทานอาหารสำเร็จรูปหรืออาหารฟาสฟู้ด
     อาหารแปรรูป หรือ อาหารฟาสฟู้ดส่วนใหญ่ มีไขมันชนิดไม่ดีปะปนอยู่ ซึ่งการที่หน้าท้องของคุณยังคงมีไขมันสะสมอยู่นั้น และคุณรับประทานเพิ่มเข้าไปอีก จึงส่งผลให้พุงยื่นออกมา เนื่องจากไขมันหน้าท้องมีความสัมพันธ์กับกระบวนการอักเสบ ซึ่งการทานอาหารจำพวกนี้จะยิ่งทำให้ยากต่อการลดไขมันหน้าท้องค่ะ
3. เครียด
ความเครียดไม่เคยส่งผลดีต่อสุขภาพ ซึ่งหากคุณเก็บความเครียดไว้นานๆ ก็จะส่งผลให้ร่างกายอ่อนแรง เศร้าซึม จนอยากกินของหวานเพื่อปลุกความสดชื่นให้ร่างกาย เมื่อเครียดร่างกายก็จะหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) ออกมาเกินปกติ ทำให้ไขมันในเลือดพุ่งกระจายไปยังเซลล์ต่างๆ ก่อให้เกิดภาวะไขมันในช่องท้องได้ง่ายขึ้น 
4. พักผ่อนไม่เพียงพอ
จากผลวิจัยของสถาบันสุขภาพนานาชาติของอเมิรกาเผยว่า กลุ่มคนที่นอนน้อยกว่า 6 ชั่วโมง มีอัตราน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น 30% หรือมากกว่านั้น นอกจากนี้ยังส่งผลต่อชีวิต สุขภาพกาย และสุขภาพจิตอีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้น หากคุณนอนประมาณ 5-6 ชั่วโมงติดต่อกัน 2-3 เดือน นอกจากจะทำให้คุณลดห่วงยางรอบเอวไม่สำเร็จแล้ว คุณก็ยังมีความเสี่ยงที่จะมีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น และเป็นโรคเบาหวานค่ะ
5. ภาวะโรคบางอย่าง
ถ้าหากคุณมีฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน (Testosterone) ในร่างกายสูง นั่นอาจบ่งบอกถึงภาวะผิดปกติ อย่างเช่น ภาวะถุงน้ำรังไข่หลายใบหรือ Polycystic Ovary Syndrome (PCOS) ซึ่งเป็นผลให้น้ำหนักขึ้นง่าย และมีภาวะผิดปกติในหลายๆจุด โดยส่วนมากจะเกิดกับหญิงวัยเจริญพันธุ์ ซึ่งอาจทำให้คุณมีปัญหากับประจำเดือน ขนดก มีบัตรยาก ผิวหน้ามัน และเป็นสิวมากร่วมด้วย
6. อายุมากขึ้น
เมื่ออายุมากขึ้น กลไกการทำงานในร่างกายของเราก็จะทำงานช้าลงและด้อยประสิทธิภาพตามอายุการใช้งาน โดยเฉพาะสาวๆ ที่กำลังเข้าสู่วัยหมดประจำเดือน ฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเทอโรนจะถูกผลิตน้อยลง ส่งผลให้ฮอร์โมนเทสฌทสเตอโรนมีอัตรสูงขึ้นอย่างช้าๆ ซึ่งความแปรปรวนของฮอร์โมนนี้ ก็อาจเหนี่ยวรั้งให้ผู้หญิงควบคุมน้ำหนักตัวได้ยาก รวมทั้งหน้าท้องก็จะขึ้นง่ายแต่จะทำให้กลับไปแบนราบได้ลำบาก
7. โครงสร้างทางร่างกาย
หากคุณเป็นคนที่ช่วงเอวหนากว่าส่วนสะโพกและบั้นท้าย รูปร่างลักษณะนี้เรียกว่าทรงแอปเปิ้ล ซึ่งธรรมชาติของยีนส์ลักษณะนี้จะบังคับให้คุณเป็นคนที่มีหน้าท้องโดยอัตโนมัติ แถมยังลดหน้าท้องได้ยากกว่าลักษณะอื่นๆอีกด้วย

​

​

     เมื่อรู้เหตุผลแล้วก็อย่าลืมนำปรับไปใช้กันด้วยนะคะ ออกกำลังกายควบคุมอาหารและปรับพฤติกรรมใหม่ แล้วใช้บีโบว์ควบคู่ไปด้วย ช่วยให้หน้าท้องของคุณลูกค้าลดไวขึ้นแน่นอนค่ะ